ASA FORUM

เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสไปฟังการบรรยายของสถาปนิกชื่อดังในงาน ASA FORUM โดยไปฟังวันที่ 5 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการบรรยายเลกเชอร์ ความจริงตั้งใจจะไปฟังเลกเชอร์ของ อ.เมธา บุนนาคโดยเฉพาะ รู้สึกชื่นชอบผลงาน แนวคิดของอ.เมธาเป็นอย่างมาก

เมธา บุนนาค ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์
(สถาปัตยกรรม) ปี 2554
บาราย หัวหิน

การบรรยายของอ.เมธาเริ่มประมาณ 16:00 น. เราไปฟังตั้งแต่ช่วงเช้า บ่าย พอถึงช่วงเลกเชอร์ของอ.เมธา ต้องยอมรับเลยว่ามีคนมาเข้าฟังการบรรยายเยอะมาก เรียกได้ว่าล้น ที่นั่งเต็ม พอถึงเวลาการบรรยาย อ.เมธาปรากฏตัวบนเวทีใส่ชุดสูทสีนำ้ตาล เริ่มแรกอ.เมธาไม่ได้พูดเกี่ยวกับงานสถาปัตยกรรม แต่จะพูดถึงเรื่องจินตนาการ (imagine) แล้วพูดเปรียบเทียบอย่างพรสวรรค์ (Gift) และความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ว่าไม่มีใครที่มีพรสวรรค์ แต่มันเป็นเรื่องของการฝึกฝน และความสนใจในสิ่งนั้น รักที่จะทำมัน อ.เมธาได้พูดถึงคำว่า “freedom” ได้น่าสนใจว่า ทุกคนเกิดมามี freedom และ creativity ซึ่งต่างกับสัตว์ที่ไม่มี 2 สิ่งนี้ แต่ปัญหาคือ เราใช้มันไม่เต็มที่ แล้วได้อ้างอิงคำพูดของ อ. ศิลป์ พีระศรีว่า เราเลือกที่จะเป็น ถ้าเราคิดจะเป็น   และยังบอกอีกว่า ถ้าเรามี freedom มากเท่าไหร่ เราจะยิ่งมี creativity มากเท่านั้น

แล้วอาจารย์ก็ยกตัวอย่างให้เราได้เข้าใจ ว่าอย่างคุณเห็นงานของ Zaha Hadid แล้วคุณไปเลียนแบบเขา อย่างนั้นไม่เรียกว่าความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งการบรรยายในช่วงแรกอ.เมธาจะยกตัวอย่างแนวคิดเป็นคำๆ อย่างคำว่า contemporary ซึ่งแปลว่า ร่วมสมัย คำนี้เป็นเรื่องของอดีต เพราะร่วมสมัยเป็นการศึกษาอดีต ศึกษาประวัติศาสตร์ และยังบอกอีกว่า อดีตเป็นทั้งศัตรูและเป็นแรงบันดาลใจของความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักใช้อดีตให้เป็น จากนั้นอ. ยกคำมา 4 คำคือ

– Intellect คือ ความคิด ความเข้าใจ หรือที่เรามักใช้คำว่า concept
– Imagination เกิดได้หลายแบบ มันเกิดจาก feeling, love, skill หรือเกิดจาก practice
-Skill ทักษะ ฝีมือ ความชำนาญ
– Practice การฝึกฝน
4 อย่างนี้เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรม สิ่งสำคัญต้องมีความรับผิดชอบด้วย

อ.ฉายสไลด์ภาพ sketch จากสถานที่ต่างๆ เป็นการ sketch ภาพจากความจริง เป็นภาพที่ได้จากการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ เหมือนสถาปนิกมีชื่อเสียงหลายคนที่ออกเดินทางเพื่อไปศึกษางานสถาปัตยกรรม ศึกษาดีเทล เพราะมันสามารถมองเห็นได้ลึกซึ้งกว่าที่เราดูในหนังสือ

Le Corbusier
Ronchamp

งานออกแบบของอ.เมธาจากที่ฟังบรรยาย คือ จะเป็นเรื่องของความมืด แสง และเงา เส้นขอบฟ้า อ.เมธาบอกว่าตัวแกไม่ค่อยมี creativity เพราะยังยึดติดอยู่กับอดีต แล้วเล่าให้พวกเราฟังถึงวิธีการออกแบบโรงแรมที่อ.ได้เคยออกแบบ อย่างเช่นจะออกแบบนำ้ในสระให้มันนิ่ง ไม่เคลื่อนไหวจะทำอย่างไร หรือการออกแบบทางเข้ามายัง lobby ฉายภาพทัศนียภาพ แปลน รูปด้าน เขียนมือล้วนๆ ซึ่งปัจจุบันเห็นน้อยมากที่สถาปนิกยังเขียนมืออยู่ ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ (รู้สึกชื่นชม) และแกได้อ้างถึง Le Corbusier ในเรื่องการออกแบบทางลาด (ramp) ความงาม ซึ่งสถาปัตยกรรมที่ดีต้องให้ความสวยงามและความเบิกบานในจิตใจ แกไม่ได้พูดถึงแค่งานสถาปัตยกรรมเพียงอย่างเดียว แต่จะพูดถึงงานจิตรกรรม ปะติมากรรมด้วย และพูดเปรียบเทียบงานจิตรกรรมกับสถาปัตยกรรม และยกตัวอย่างงานสถาปัตยกรรมของ Le Corbusier อย่างโบสถ์ Ronchamp พูดถึงรูปฟอร์ม ช่องแสง ความหนาแน่น  นอกจากนั้นแกพูดเรื่องแฟชั่นนิดหน่อย การออกแบบเสื้อผ้าของผู้หญิงเปรียบเทียบกับโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม อ.เมธาพูดศิลปะเกือบทุกแขนงและให้เหตุผลกับงานสถาปัตยกรรม

การบรรยายเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน มีขำขันบ้าง ซึ่งเราได้แง่คิดมากมายถึงแง่คิดในการทำงานสถาปัตยกรรม แรงบันดาลใจ ไม่ใช่มีประโยชน์ในด้านสถาปัตย์ แต่ได้กับการทำงานด้านศิลปะทุกแขนง เราสามารถนำศิลปะหลายแขนงมาประยุกต์ใช้กับงานสถาปัตยกรรม   และที่ชอบประโยคหนึ่งของอ.เมธา คือ ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ทุกคนมี freedom อยู่ในตัว สุดท้ายขอขอบคุณทีมงาน ASA FORUM ที่มีกิจกรรมดีๆ มีประโยชน์ได้ความรู้ สาระมากมาย

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here