CocoRosie

จะว่าไปแล้วเพลง sub pop เป็นแนวเพลงทีเราไม่เคยฟังมาก่อน แล้วไม่เคยได้ยิน จนมีอยู่มาหนึ่งอาจารย์ที่เคารพได้แนะนำ และเห็นว่าแนวเพลงแปลกดี ซึ่งก็แปลกจริง เราดูอยู่หลายรอบ ตอนแรกดูแล้วก็กลัว จากนั้นก็หลอน แล้วเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง แล้วมาชอบ มันเป็นเพลงที่สื่อความหมายเป็นนามธรรม ตอนดูแรกๆอาจจะงงๆ ประมาณว่ามีผู้หญิงอยู่ 2 คนแต่งตัวชุดโบราณ ไว้หนวด เดินอยู่ในบรรยากาศมืดๆ เหมือนมาเล่าเรื่องราว เรื่องราวของเพลงสื่อถึงชีวิต สังคม ความคิดโดยแสดงออกทางนามธรรมและศิลปะ

    CocoRosie  (ซ้าย) Bianca , (ขวา) Sierra

CocoRosie เป็นนักร้องคู่หูชาวอเมริกัน ประกอบด้วย Sierra และ Bianca โดย Sierra เกิดที่ไอโอวา และ Bianca เกิดที่ฮาวาย ตอนที่พวกเธอยังเด็กคือ Sierra อายุ 5 ขวบ และ Biance อายุ 3 ขวบ พ่อแม่ของทั้ง 2 คนหย่าขาดกัน พวกเธอจึงอาศัยอยู่กับแม่ที่เป็นศิลปินและนักร้องพื้นเมือง ชีวิตช่วงนั้นพวกเธอต้องอพยพย้ายถิ่นทุกปี อย่างฮาวาย แคลิฟลอเนีย นิวแมกซิโก และอริโซนา ด้วยเหตุผลของแม่ที่เชื่อว่า ลูกๆของเธอจะได้เรียนรู้ชีวิตความเป็นจริงของโลกใบนี้และเรียนรู้เรื่องของศิลปะได้มากกว่าอยู่ที่โรงเรียน แต่ทั้งสองก็เรียนจนจบไฮสคูล ในปี 1988 ทั้งคู่ย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ก และอีกสองปีต่อมา Sierra อายุ 20 ปี ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในอพารเมนต์เล็กๆแห่งหนึ่งในปารีส และเริ่มทำงานเป็นนักร้องโอเปร่า และเรียนต่อที่โรงเรียนสอนดนตรีปารีส (Conservatoire de Paris) ส่วนทางด้าน Bianca ที่อยู่ที่นิวยอร์กได้เรียนต่อทางด้านภาษาศาสตร์และสังคมวิทยา

ในปี 2003 Bianca ได้ไปอยู่กับ Sierra ที่ฝรั่งเศส ทั้งสองใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ผลิตผลงานเพลงในห้องอคูสติกของอพาร์เมนต์ที่ทั้งสองอาศัยอยู่ ตัวเนื้อหาเพลงจะเกี่ยวกับผู้หญิง 2 คนเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ความคิด ความรู้สึกจากจิตใต้สำนึก(ของผู้หญิง) ส่วนที่มาของวง CocoRosie มาจากชื่อเล่นของทั้งสองคนมารวมกัน คือ Rosie (Sierra) และ Coco ( Biance) ดนตรีที่ใช้เล่นมีหลายประเภท โดย Biance จะเป็นคนร้อง เล่นดนตรีประเภทตี  ส่วน Sierra จะร้อง เล่นกีต้าร์ เปียโน และฮารป์ และยังมีการใช้ Beatbox (การทำเสียงดนตรีจากปาก) และมีการเล่นคีย์บอร์ดและเบส

SUB POP LOGO

เพลงของ CocoRosie เป็นแนวเพลง Sub pop  ถือเป็นดนตรีแนวใหม่ เป็นกลุ่มเพลงที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1986 จุดเริ่มต้นอยู่ที่ซีแอทเทิล รัฐวอชิงตัน โดยวงดนตรีวงแรกที่ร้องคือ วง Nirvanna ซึ่งแนวเพลง sub pop เกิดจากการผสมผสานของดนตรีหลายๆแนวมารวมกัน ถ้าเปรียบดนตรี sub pop กับงานศิลปะ ก็คงเป็นศิลปะ abstract ที่ีมีหลากหลายอารมณ์ คือเกิดจากการผสมดนตรี pop , rock , punk , Indy rock และดนตรีแนว Grung ซึ่งเป็นดนตรีที่มีความดิบของเสียง พัฒนามาจากดนตรีร๊อค และเฮฟวีเมลทัล เนื้อเพลงเป็นเนื้อหาเสียดสีสังคม

ลักษณะการแต่งตัวของ Cocorosie
การใช้ดินสอสีดำเขียนเป็นหนวด
fashion ของ Cocorosie
fashion ของ CocoRosie

ส่วนเรื่องคอสตูมการแต่งตัว ถือว่าเป็นเรื่องแปลก เราว่าพวกเธอคงได้รับอิทธิพลสมัยเมื่อตอนเป็นเด็ก การได้เห็นความจริงของชีวิตและการศึกษาศิลปะมาตั้งแต่เด็กๆ พวกเธอเคยสัมภาษณ์ไว้ว่า เริ่มออกแบบเสื้อผ้าเองตอนอายุ 15 ซึ่งพวกเธอมีจักรเย็บผ้าเป็นของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ และจุดประสงค์ที่พวกเธอแต่งหน้า ทาสี เขียนหนวดคือความตั้งใจที่ต้องการให้หน้าตาน่ากลัว มากกว่าความสวยงาม คือต้องการศัตรูที่พบเห็นตกใจกลัว พวกเธอจะใช้ดินสอสีดำวาดเป็นหนวดรอบๆริมฝีปาก เป็นการแต่งตัวกำ่กึ่งระหว่างเพศหญิงและเพศชาย Bianca เล่าว่าสมัยอยู่ high school เธอเคยใส่วิกผมทรง  rainbow Afro ไปโรงเรียน ซึ่งสิ่งที่เธอสื่อบอกถึงเรื่องความเท่าเทียม อิสระเสรีในความคิด เธอบอกว่า อะไรที่พวกคุณเกลียดมากที่สุด และอะไรคือสิ่งที่คุณไม่ต้องการ หรือสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวด

ทั้งหมดมันรวมอยู่ในภาษาเพลงของพวกเรา ซึ่ง Sierra เป็นพวกต่อต้านเรื่องมนุษยชาติ ฟ้าผ่า ธรรมชาติ ความอดทนทางด้านกายภาพ เธอจับมาใส่ลงในบทเพลง เพลงของพวกเธอจึงเป็นเพลงที่มาจากจิตใต้สำนึก ความคิดในสิ่งที่ไม่ชอบ อาจทำให้คนที่ดูตอนแรกๆอาจรู้สึกหลอนๆ แต่ถ้าเข้าใจเริ่มชอบทันที

นำ้หอม Kenzo Amour

เพลงของ CocoRosie เคยถูกนำมาใช้ในโฆษณานำ้หอม อย่าง Kenzo Amour และ Fscada และใช้ประกอบภาพยนต์ฝรั่งเศสอีกด้วย

Lamonade

We are on fire

After The Afterlife

Child Bride

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here