คำว่า Minimalism เป็นคำที่พูดกันมากในวงการที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและงานออกแบบ ที่ใช้บอกสิ่งที่ดูเรียบน้อย บริสุทธิ์ สีขาวดำที่เป็นสีสัญลักษณ์ประจำตัวของลัทธินี้ และเป็นลัทธิที่ดูจะเติบโตมากที่สุด นั่นอาจจะเป็นเพราะว่ามันสามารถเข้าถึงจิตใจคนได้ง่ายมากกว่าลัทธิอื่นๆ ลองมาดูว่า Minimalist มีข้อดี และเติบโตขึ้นอย่างไร

การเติบโตในญี่ปุ่น


สัญลักษณ์ ZEN



                 ประเทศญี่ปุ่นมีการเติบโตของลัทธินี้สูงกว่าประเทศอื่น เนื่องจากว่า minimalism มีความสอดคล้องกับลัทธิเซนของญี่ปุ่น ซึ่งเซนจะพูดถึงความเรียบง่าย หรือสิ่งที่น้อยที่สุด มากกว่าการพูดถึงความงาม เป็นปรัชญาที่เข้าถึงงานศิลปะ งานสถาปัตยกรรม และงานออกแบบได้ง่าย แล้ว zen ก็แผ่อิทธิพลออกไปถึงโลกฝั่งตะวันตกอย่าง สหรัฐอเมริกา ซึ่งโลกฝั่งตะวันตกนำมาใช้กับงานสถาปัตยกรรม อย่าง Frank Lloyd Wright ก็ได้รับอิทธิพลจากญี่ปุ่นในการออกแบบงานสถาปัตยกรรม และ Tadao Ando ก็ใช้ zen ในการออกแบบงานของเขา อย่างที่เราเห็นว่างานของ Ando จะมีความใกล้ชิดธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำ ตัวอาคารมีความบริสุทธิ์ของรูปทรงเราขาคณิต มีดีเทลที่น้อย ตัวอาคารมีความสัมพันธ์กับบริบทโดยรอบ  หรือแม้แต่ SANAA  สองสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่มีผลงานสถาปัตยกรรมที่เป็น minimalism โดยพวกเขาจะใช้วัสดุอาคารที่เป็นสีขาว โครงสร้างอาคารมีลักษณะที่โปร่งใส ทำให้งานออกแบบอาคารของ SANAA มักจะเกี่ยวข้องกับงานศิลปะ

งานของ Ando ที่มีความเป็น zen
และ minimalist
ผลงานของ SANAA

Minimalism ในด้านต่างๆ


Minimalism ในงานศิลปะ

ผลงานของ Piet Mondrian

 

ผลงานของ Tony Smith


                การเติบโตของ minimalism เริ่มเติบโตในงานศิลปะที่เป็นประติมากรรม และงานจิตรกรรมบางส่วน โดยงานประติมากรรมในลัทธิ minimalism มักจะมีรูปแบบที่เป็นกล่อง เป็นฐาน ตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกหมด เหลือแต่ความบริสุทธิ์ของรูปทรง ความน่าสนใจของงานประติมากรรมอยู่ตรงที่ศิลปินเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกัน ทำให้งานประติมากรรมที่แม้ว่าจะมีรูปร่างคล้ายกันแต่ก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในศิลปินแต่ละคน

Minimalism ในงานแฟชั่น

Calvin Klein
Jil Sander


                เอกลักษณ์ของ minimalism ในงานแฟชั่นมักมีจุดเด่นในเรื่องของสี นั่นคือ มักจะใช้สีขาวดำ ปราศจากการตกแต่งที่เป็นองค์ประกอบเล็กๆ มีความบริสุทธิ์ในตัวรูปทรงเสื้อผ้า ถ้าสังเกตดีๆนอกจากสีของเสื้อผ้าที่มีสีขาวดำ หรือมีสีสันอื่นๆอย่างเช่น สีแดง สีเทา แต่เรื่องรูปทรงของเครื่องแต่งกายในงาน minimalism เรียกว่าจะขาดไม่ได้ ลักษณะเหมือนเป็นการสร้างเรื่องราวบนเสื้อผ้า ทำให้งานแฟชั่นในแบบ minimalism มักใช้ได้ทุกโอกาสและล้าสมัยช้า

Minimalism ในงานสถาปัตยกรรม

งานสถาปัตยกรรมของ John Pawson ที่มีความเป็น minimalism ชัดเจน
งานสถาปัตยกรรมโดย Peter Zumthor
งานสถาปัตยกรรมโดย Alberto Campo Baeza

ในงานสถาปัตยกรรมที่เป็นงาน minimalism มีมากมายและแตกต่างกันตามสถาปนิกแต่ละคน ซึ่งงานสถาปัตยกรรมที่เป็นแบบ minimalism มักเป็นงานที่มีดีเทลไม่เยอะ มีความตรงไปตรงมาของรูปฟอร์มอาคาร เน้นความสวยงามของวัสดุอาคารนั้นๆ งานสถาปัตยกรรมลัทธินี้เติบโตมากในช่วงยุค 1940-1990 ก่อนที่สถาปัตยกรรมจะหันเหไปทางอนาคตนิยม และกราฟิกมากขึ้น สถาปนิกที่ขึ้นชื่อในงานออกแบบด้านมินิมอล เห็นจะเป็น John Pawson โดยงานของเขาใช้วัสดุอาคารน้อยที่สุด มีความสวยงามของวัสดุและรูปแบบ space มีความกลมกลืนกับสภาพบริบทโดยรอบ นอกจากนี้สถาปนิกอย่าง Peter Zumthor เป็นสถาปนิกที่เลือกใช้วัสดุท้องถิ่นในการออกแบบ

Minimalism ในงานออกแบบผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยี




braun tp1 โดย Dieter Rams



                    ในปัจจุบันงานออกแบบผลิตภัณฑ์ก็มีการใช้รูปแบบดีไซน์ที่มีความเรียบง่ายแบบ Minimalism ค่อนข้างสูงมาก และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ส่วนงานเทคโนโลยีในความเป็นจริงนั้นไม่ได้เรียบง่าย มีความซับซ้อนมากมาย ซึ่งนักออกแบบที่มีความรู้ในการออกแบบมักจะทำให้สิ่งที่ดูซับซ้อนนั้นดูง่ายที่สุด ซับซ้อนให้น้อยที่สุด นั่นคือ ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด และเป็นนวัตกรรมที่มีการพัฒนา และสามารถใช้ได้นาน อย่างที่นักออกแบบเยอรมัน Dieter Rams พูดไว้ว่า งานออกแบบที่ดีทำให้ผลิตภัณฑ์มีประโยชน์ หรือแม้กระทั่ง Steve Job ที่ใช้หลักของ Zen ในการออกแบบ ซึ่งผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของ apple อย่าง ipod ที่ออกแบบให้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมที่เรียบง่าย มีปุ่มกดไม่กี่ปุ่ม ซึ่ง Job มีความเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์นั้นต้องมีความซับซ้อนให้น้อยที่สุด เพราะผู้ใช้ไม่ได้มีความรู้ทางเทคโนโลยีต่างๆ ฉะนั้นการทำให้ง่ายที่สุดจะเข้าถึงผู้ใช้ได้สะดวก และผลิตภัณฑ์ของเขานั้นได้มีอิทธิพล เป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีทั่วโลก

บทสรุป

สิ่งที่ผู้เขียนเขียนถึง Minimalism ไม่ใช่ว่ามินิมอลดีกว่าลัทธิอื่นๆ แต่เป็นการเปรียบเทียบว่า minimalism มีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วเติบโตมาได้อย่างไร ซึ่ง minimalist เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เรียกว่าไปแบบเรื่อยๆ เหมือนเส้นกราฟที่ค่อยๆขึ้น และงานมินิมอลเป็นงานที่น่าสนใจและมีอิทธิพลมากในปัจจจุบัน

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.thegroundmag.com/
https://fashionabroad.wordpress.com/
http://www.blessthisstuff.com/
http://www.johnpawson.com/

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here