The Museum of Modern Art

งานออกแบบพิพิธภัณฑ์มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทฤษฎี ไลฟสไตล์ และวัฒนธรรม ซึ่งสถาปัตยกรรมสามารถแสดงถึงความคิดความอ่านของคนในแต่ละยุค เนื่องจากตัวสถาปัตยกรรมสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ ฉะนั้นพิพิธภัณฑ์ในแต่ละสมัยจึงมีรูปแบบลักษณะเฉพาะ และมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน จากรูปแบบที่เป็นทางการ ซับซ้อน ไปจนถึงเรียบง่าย ลองมาดูงานออกแบบพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจในแต่ละยุค

Museum of Orsay
Museum of Orsay โดย Gae Aulenti

1.Museum of Orsay-รูปแบบทางการ
พิพิธภัณฑ์ที่เกิดจากการปรับปรุงของสถานีรถไฟเก่า ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเอกลักษณ์แบบโบซาร์ของฝรั่งเศสที่สร้างเมื่อ ค.ศ. 1898-1900 โดยการออกแบบจะให้ผู้คนสามารถชมงานศิลปะเป็นเส้นตรง มีรูปแบบที่เป็นทางการที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา โดยห้องเก็บผลงานจะอยู่ด้านหลัง ซึ่ง Museum of Orsay มีการรื้อถอนโครงสร้างเดิมของสถานีรถไฟน้อยที่สุด นั่นคือการออกแบบที่ยังคงรักษาสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมเดิมเอาไว้

Guggenheim museum โดย Frank Lloyd Wright
Guggenheim museum

2.Guggenheim Museum โดย Frank Lloyd Wright -รูปแบบทางการ
ในยุคของ Frank Lloyd Wright สมัยสถาปัตยกรรม modern  พิพิธภัณฑ์มีรูปแบบที่เป็นรูปทรงเรขาคณิตอย่างชัดเจน รูปแบบฟังก์ชัน Frank Lloyd Wright ได้นำทางลาด(ramp) ในการสร้างทางเดินให้คนชมงานจากชั้นบนถึงชั้นล่าง เนื่องจากขนาดพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์มีขนาดจำกัด ทำให้ผู้เข้าชมงานสามารถชมงานศิลปะที่ติดตรงผนังค่อยๆลงไปจนถึงชั้นล่างสุด โดยมี skylight ที่ใช้ส่องแสงให้กับพื้นที่ภายใน โดยแสงไม่สามารถส่องถึงตัวงานศิลปะได้

the Museum of Modern Art

 

The Museum of Modern Art
พื้นที่ภายในที่สามารถมองเห็นวิวสวนข้างนอก



3.the Museum of Modern Art -รูปแบบที่เรียบน้อย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะในกรุงนิวยอร์ก ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ง่าย และน้อยที่สุด เป็นรูปแบบฟอร์มสี่เหลี่ยมธรรมดาสามัญ ลักษณะการออกแบบที่เรียบน้อยเกิดจากการแก้ปัญหาสภาพแวดล้อมโดยรอบเพื่อให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่สำหรับดูงานศิลปะโดยเฉพาะ โดยการสร้างสวนตรงกลางขึ้นมาเพื่อลดความหนาแน่นให้กับอาคารรอบๆ และสามารถตอบสนองในการจัดแสดงงานศิลปะได้มีประสิทธิภาพ

The Guggenheim Museum Bilbao โดย Frank Gehry
ลักษณะทางเข้าที่แคบ



4.The Guggenheim Museum Bilbao-รูปแบบซับซ้อน
พิพิธภัณฑ์ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์รูปแบบพิพิธภัณฑ์แบบดั้งเดิม ซึ่ง Frank Gehry ได้ลบล้างความคิดเดิมๆในการออกแบบพิพิธภัณฑ์ และการเข้าชมงาน  Gehry ได้สร้างทางเดินโค้งริมแม่นำ้ในการเข้าถึงตัวสถาปัตยกรรม และการสร้างโถงทางเข้าที่มีทางเดินแคบๆที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินเข้าไปในหุบเขา ด้วยลักษณะโครงสร้างที่มีความซับซ้อนที่สร้างจากไทเทเนียม หินปูน และกระจก ทำให้ตัวสถาปัตยกรรมเหมือนงานประติมากรรมขนาดใหญ่ ซึ่ง Frank Gehry ได้ใช้โปรแกรมออกแบบ 3 มิติที่เรียกว่า CATIA‭ ที่ทำให้ Gehry สามารถสร้างรูปแบบที่ซับซ้อน บิดโค้งได้อิสระ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณโครงสร้าง รูปแบบวัสดุล้วนใช้ CATIA ในการคำนวณ ส่งผลให้รูปแบบฟังก์ชันในการเข้าชมเปลี่ยนไป

MAXXI Museum โดย Zaha Hadid
ภายในพิพิธภัณฑ์ ที่ใช้ทางเดินแสดงผลงาน

5. MAXXI Museum-รูปแบบซับซ้อน
รูปแบบที่ตามติด Frank Gehry พิพิธภัณฑ์ MAXXI ตั้งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ออกแบบโดย Zaha Hadid ที่สร้างเสร็จในปี 2009 Zaha Hadid ได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดวางงานศิลปะใหม่ โดยการสร้าง space ในการจัดวางผลงานที่ไม่มีห้อง ไม่มีผนัง แต่พื้นที่ภายในทั้งหมดมีการเคลื่อนไหวและยืดหยุ่น มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นั่นคือใช้พื้นบริเวณทางเดินในการจัดนิทรรศการ และการแสดงต่างๆ ซึ่งเป็นผลให้พื้นที่นิทรรศการมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำให้ MAXXI Museum ได้รับความความสนใจจากผู้คนอย่างมาก

The National Gallery of Greenland
ภายในพิพิธภัณฑ์

6.The National Gallery of Greenland
สถาปนิกรุ่นใหม่อย่่าง BIG ได้ชนะการประกวดแบบพิพิธภัณฑ์ศิลปะของเกาะกรีนแลนด์ ด้วยรูปทรงสถาปัตยกรรมที่ดูอิสระ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่สามารถมองเห็นเกาะกรีนแลนด์ได้อย่างชัดเจน ตัวสถาปัตยกรรมมีการไหลไปตามสภาพภูมิประเทศ และมีการสร้างคอร์ดกลางเพื่อให้คนเดินรอบวงแหวน ภายนอกจะเป็นสวนที่เปรียบเสมือนเป็นงานประติมากรรม ที่ผู้ชมสามารถเดินชมได้รอบๆ และทำหน้าที่เป็นจุดโฟกัสให้กับพิพิธภัณฑ์ และสร้างจุดชมวิวภายนอกได้แบบ 360 องศา

Louvre Lens โดย SANAA
ภายในพื้นที่แสดงผลงาน

7. Louvre Lens-รูปแบบธรรมดาสามัญ
พิพิธภัณฑ์ชั้นเดียวอย่าง Louvre Lens ออกแบบโดย SANAA สองสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่ได้ออกแบบพิพิธภัณฑ์รวบรวมผลงานศิลปะ ที่มีความยาวของอาคารประมาณ 360 เมตร เปลี่ยนรูปแบบการเดินเข้าชมงานแสดงศิลปะ โดย SANAA ตั้งใจให้ตัวสถาปัตยกรรมเข้าถึงได้ง่ายและเข้ากับบริบทของไซต์ SANAA ได้ออกแบบให้พิพิธภัณฑ์มีรูปทรงสี่เหลี่ยมที่เบาบางตามแบบฉบับของพวกเขา อาคารที่ใช้วัสดุอลูมิเนียมที่มันเงา ทำให้เกิดการสะท้อนที่เห็นความต่อเนื่อระหว่างพิพิธภัณฑ์และภูมิทัศน์โดยรอบ และการวางอาคารที่แผ่ยาวสร้างความเชื่อมโยงกับสวนสาธารณะและเมือง Louvre Lens จะเปิดให้เข้าชมในปี 2015

งานออกแบบพิพิพธภัณฑ์ยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เราคงจะได้เห็นงานพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกมากมายในอนาคตข้างหน้า

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here