Rem Koolhaas

ในยุคนี้ในวงการสถาปัตย์คงไม่มีใครไม่รู้จัก Rem Koolhaas สถาปนิกชื่อดังระดับโลก โดยกระบวนการแนวคิดในการออกแบบของ Koolhaas น่าสนใจมาก มีความเป็นเหตุเป็นผล มีข้อมูล กระบวนการชัดเจน ความคิดของเขามีอิทธิพลต่อวงการสถาปนิกในยุคปัจจุบัน เรามารู้จักกับ Rem koolhass กัน

Remment Lucas Koolhaas หรือ Rem Koolhaas เป็นสถาปนิก นักเขียนบทละคร และอดีตนักข่าวชาวดัชต์  Koohass ยังเป็นอาจารย์ภาคปฏิบัติในวิชาการออกแบบสถาปัตยกรรมในเมือง(Architecture and Urban Design) ที่สถาบันการออกแบบที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา Koolhass จบการศึกษาจาก Netherland Film and Television Academy ในกรุงอัมสเตอร์ดัม , the Architectural Association School of Architecture ในกรุงลอนดอน และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล(Cornell University) ในกรุงนิวยอร์ก เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทสถาปนิก OMA และ AMO บริษัทที่เกี่ยวกับการวิจัย ซึ่งเป็นบริษัทร่วมกับ OMA ก่อตั้งเมื่อปี 1975 และในปี 2005เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Volume Magazine ร่วกับ Mark Wigley และ Ole Bouman

ในปี 2000 เขาได้รับรางวัลพริตซ์เกอร์(Pritzker Prize)ทางด้านสถาปัตยกรรม และในปี 2008 เขายังได้รับเลือกเป็น 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก

ตัวอย่าง Volume Magazine

เราว่าแนวความคิด และการเป็นนักเขียนของ Koolhaas คงได้รับอิทธิพลมาจากพ่อของเขาSelinde Pietertje Roosenburg ซึ่งเป็นนักเขียนนวนิยาย และนักเขียนบทภาพยนต์ และปู่ของเขา Dirk Roosenburg เป็นสถาปนิกในยุคโมเดิร์น(1887-1962) พ่อของเขาเคยเขียนเกี่ยวกับการสนับสนุนอินโดนีเซียในเรื่องการเป็นอิสรภาพจากอาณานิคมเนเธอร์แลนด์ เมื่ออินโดนีเซียได้รับอิสระ พ่อของเขาได้รับเชิญเป็นทูตวัฒนธรรม 3 ปี และครอบครัวของ koolhass จึงย้ายไปอยู่ที่กรุงจากาตาร์ในปี 1952

“มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญกับผมมาก” Koolhass กล่าว “และผมอาศัยอยู่ในทวีปเอเชียจริงๆ”

Koolhass เริ่มเรียนเขียนบทภาพยนต์ครั้งแรกที่ Film and Television Academy ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้เขียนเรื่อง The White Slave เขายังเคยเป็นนักข่าวที่ The Haagse post ก่อนที่จะมาเป็นนักศึกษา

เขาก่อตั้งบริษัท OMA( The office for Metropolitan Architecture) เป็นบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและพื้นที่ปริมณฑล โดยก่อตั้งร่วมกับ Elia Zenghelis , Zoe Zenghelis และภรรยาของเขา Madelon Vriesendorp ในกรุงลอนดอน และผู้ที่เป็นหุ้นส่วนกับเขาภายหลังไม่ใช่ใครที่ไหน คือลูกศิษย์ของเขา Zaha Hadid สถาปนิกหญิงมหัศจรรย์ เจ้าของผลงานออกแบบที่สื่อถึงโลกอนาคต

Zaha Hadid สถาปนิกชื่อดัง

ช่วงแรกๆที่เริ่มก่อตั้งบริษัทเขาเริ่มมีงานโปรเจคอย่าง Parc de la Villette ที่กรุงปารีส(1982) และที่พักอาศัยของประธานาธิบดีประเทศไอร์แลนด์

Parc de la Villette, Parit
Parc de la Villette, Parit

Parc de la Villette เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ตั้งอยู่ตรงถนน Boulevard Périphérique เป็นถนนวงแหวนรอบนอกกรุงปารีส อยู่แถบชานเมือง ความจริงแล้วสวนสาธารณะนี้ออกแบบโดย Bernard Tschumi สถาปนิกชาวฝรั่งเศส(สัญชาติเดิมคือชาวสวิตเซอร์แลนด์)โดยก่อสร้างเมื่อปี 1984-1987

Bernard Tschumi สถาปนิกชาวฝรั่งเศส

ในปี 2006 Rem Koolhass ได้รับมอบหมายให้พัฒนา 111 First Street ที่เมืองนิวเจสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ตรงข้ามกับแม่นำ้ Hudson โดยKoolhaasออกแบบร่วมกับบริษัท OMA เป็นการพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งสำนักงานในเมือง พวกเขาหวังว่ามันจะเป็นแหล่งธุรกิจคล้ายกับเมือง Manhattan

111 Frist Street , New Jersey

โดย 111 First Street อยู่ในพื้นที่ 1.2 ล้านตารางฟุต เป็นตึกระฟ้าสูง 52 ชั้น โดยภายในตึกระฟ้าจะประกอบด้วยที่พักอาศัย โรงแรม ศูนย์การค้า และส่วนพื้นที่ของแกลเลอรี่ที่มีผลงานศิลปะ รูปทรงอาคารมีลักษณะคล้ายกับบล๊อกเลโก้ขนาดยักษ์4ชิ้น วางเรียงสลับไปมา โดยบล๊อกชั้นบนจะเป็นคอนโดมิเนียมประมาณ 150 ห้อง ส่วนบล๊อกชั้นล่างลงมาจะเป็นโรงแรมมีประมาณ 252 ห้อง

Manhattan USA ที่เป็น case studyกับ 111 First Street

ในเดือนตุลาคมปี 2008 Rem Koolhaas ได้รับเชิญให้เป็น กลุ่มบุคคลอัจฉริยะ(Group of the wise) ภายใต้ของอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศสเปนFelipe González ให้มีส่วนร่วมในการออกแบบสหภาพยุโรปในอนาคต

ต่อตอนหน้าจ้า

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here