![]() |
Xavier Corberó |
สถาปัตยกรรมที่มีความงามเป็นศิลปะ มันเป็นความงามที่ถูกออกแบบและสร้างอย่างประณีต วิจิตรบรรจง เป็นเหมือนงานประติมากรรมขนาดใหญ่ ซึ่งงานในลักษณะนี้มันจะเป็นงานที่เห็นแล้วตะลึง มีอิทธิพลต่อความรู้สึก หรือความศรัทธา ซึ่งงานของ Xavier Corberó ก็เช่นกัน
Xavier Corberó เป็นคนที่สร้างงานสถาปัตยกรรมได้เหมือนงานศิลปะขนาดใหญ่ ด้วยลักษณะงานที่สร้างจากคอนกรีตและไม้ โดยภายนอกเป็นวัสดุคอนกรีต และภายในปูด้วยวัสดุไม้ คือจากที่เห็น ตัวสถาปัตยกรรมเหมือนเป็นงานแฟนตาซี ไม่เหมือนงานที่พักอาศัย เนื่องจากพื้นที่ที่สร้างอาคารมีขนาดใหญ่มาก(ประมาณ 24ไร่) เมื่อดูจากภายนอกแล้ว มันเหมือนอีกอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกของ Corberó
![]() |
Xavier Corberó |
สิ่งที่ทำให้ Corberó มีความคิดที่จะสร้างอาณาจักรแห่งนี้ขึ้นก็เพราะ เขาอยากมีบ้านในฝันในแบบที่เป็นตัวเขาเอง ซึ่งคนที่มีความคิดแบบนี้ได้ ต้องมีจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ แต่มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะ Corberó เป็นเพื่อนรักของ Salvador Dali (ศิลปินลัทธิเหนือจริง) ทำให้มีแรงบันดาลใจและความคิดที่เป็นศิลปินสูง
ฉะนั้นบ้านของ Corberó เลยมีความเป็นจิตวิญญาณของศิลปะ เป็นอาคารที่งอกเงยขึ้นมาแฝงตัวกับธรรมชาติ ซึ่งเขาออกแบบบ้านด้วยตัวเองโดยใช้ทักษะที่เขามีอยู่(ประติมากรรม) ซึ่งเขาใช้เวลาหลายปีในการสร้างที่พักอย่างอดทนและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย(จากข้อมูลมากกว่า30ปี) โดยให้พื้นที่ภายในเป็นพื้นที่สตูดิโอและที่พักอาศัย ซึ่งเขาเรียกที่พักของเขาว่า “หอคอย” เพราะมันเป็นอาคารที่สูงและมีขนาดใหญ่
ตัวสถาปัตยกรรมเหมือนหลุดออกจากโลกความเป็นจริง ให้ความรู้สึกเหมือนดูงานศิลปะเซอร์เรียลลิสม์ที่เห็นแล้วก็ต้องตะลึงทุกครั้งกับจินตนาการของตัวศิลปิน ซึ่งผู้เขียนชอบศิลปะแนวนี้พอๆกับศิลปะนามธรรม(Abstract) เพราะมันดูแล้วต้องคิด หรือดูเพื่อเป็นแรงบันดาลใจแล้วเกิดจินตนาการ
![]() |
ภายในอาคาร |
![]() |
ภายในอาคาร |
![]() |
ลักษณะโครงสร้างภายในอาคาร |
ถ้าดูจากภายนอกเข้ามาสู่ภายในอาคารจะเห็นว่า Corberó ออกแบบตัวโครงสร้างแกนกลางเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่สูงถึง 6 ชั้น ที่ดูแล้วเป็นเหมือนโถงกลางของห้อง และเป็นแกลอรีเล็กๆ โดยเฟอร์นิเจอร์ที่เขานำมาตกแต่งเป็นสิ่งที่เขาสะสมและเป็นของหายาก ซึ่งเขาบอกว่า “ผมมักซื้อสิ่งที่ผมสนใจที่สามารถกระตุ้นจิตวิญญาณของผมได้” เขามีของสะสมจากทั่วมุมโลก ตั้งแต่ของวินเทจ ของจากเมืองจีน, เก้าอี้ที่ออกแบบโดย Le Corbusier, พรมจากตะวันออกกลาง หรือแม้กระทั่งกระเป๋าหลุยส์วิตตอง โดยของสะสมพวกนี้ทำให้ที่นี่เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์และแกลอรีเหมือนที่เขาบอกว่า “ผมพยายามทำให้ที่นี่ดูไม่น่าเบื่อ” โดยเขามีแนวความคิดในการจัดวางงานเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะว่า ของสองสิ่งที่นำมาจัดวางมีความแตกต่างกันของช่วงเวลาและยุคสมัย
หอคอยที่สูง 6 ชั้นเป็นพื้นที่ที่เป็นแกลอรี และพื้นที่พักอาศัย โดยจะเห็นผนังภายในอาคารมีความโค้งที่ดูประณีต สมดุล และได้สัดส่วน ดูแล้ว Corberó จะตั้งใจสร้างผนังโค้งมาก ซึ่งทุกส่วนของอาคารล้วนเป็นซุ้มโค้งแทบทั้งสิ้น โดยในแต่ละซุ้มโค้งจะมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันออกไป
เขาได้บอกถึงแรงบันดาลใจเกี่ยวกับศิลปะว่า “ผมรู้สึกว่าเวลาที่คนดูงานศิลปะซักชิ้นหนึ่ง พวกเขาก็เป็นศิลปินแล้ว นั่นคือ พวกเขาเห็นในสิ่งที่พวกเขาเห็น ไม่ใช่สิ่งที่มี นั่นแหละคือสิ่งที่ผมทำอยู่”
“เมื่อตอนที่พวกคุณยังเป็นเด็ก คุณยังไม่มีเวลาเรียนรู้ในสิ่งที่คุณอยากจะทำมากนัก แล้วต่อมา(โตขึ้น) มันก็มีเรื่องของความรู้และเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสองสิ่งนี้มีเรื่องวลาเป็นอุปสรรค เพราะระยะเวลาของคนเรามีไม่มากพอที่จะสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด ส่วนผมคิดจะทำงานด้านประติมากรรม และคิดว่าจะทำขึ้นมาอย่างไรเมื่อตอนอายุ20 และคงทำไปตลอด” Xavier Corberó กล่าว
![]() |
โถงบันได |
![]() |
ภายในอาคาร |
![]() |
ภายในอาคาร |
![]() |
Xavier Corberó |